เว็บไซต์ของเทศบาลตำบลโพธิ์งาม มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น กรุณาอ่าน นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
ให้ความยินยอม
ปิดเมนู ×
ผู้บริหาร
เลือกตั้งท้องถิ่น
ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง
ประจำเทศบาลตำบลโพธิ์งาม
ระบบสำนักงานอิเล็กทรอนิกส์
E-OFFICE
เทศบาลตำบลโพธิ์งาม
ระบบ LEC
การศึกษาท้องถิ่น
จองคิวออนไลน์
เพื่อเข้ารับบริการจากหน่วยงาน
ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร
อิเล็กทรอนิกส์ ทต.โพธิ์งาม
จองห้องประชุม
ONLINE
บริการประชาชน
ข้อมูลข่าวสาร
folder
แผนพัฒนาท้องถิ่น
folder
แผนการดำเนินงานประจำปี
folder
รายงานการกํากับติดตามการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีรอบ 6 เดือน
folder
งบประมาณรายจ่ายประจำปี
insert_drive_file
ข่าวประชาสัมพันธ์
folder
รายงานการกำกับติดตามการดำเนินงานประจำปีรอบ 6 เดือน
chat_bubble
จัดซื้อจัดจ้าง
folder
รายงานผลการจัดซื้อจัดจ้างหรือการจัดหาพัสดุประจําปี
folder
แผนการจัดซื้อจัดจ้าง
folder
แผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี
folder
แผนการตรวจสอบภายใน
folder
ควบคุมภายใน
folder
คู่มือประชาชน
folder
คู่มือการปฏิบัติงาน
folder
กฎหมาย-ระเบียบ-หนังสือสั่งการ
folder
จดหมายข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์
insert_drive_file
ประกาศสภาเทศบาลตำบลโพธิ์งาม
folder
รายงานการประชุมสภาเทศบาล
folder
บทความน่ารู้
folder_open
ดาวน์โหลดแบบฟอร์มเอกสารราชการ
picture_as_pdf
ดาวน์โหลดแบบฟอร์มเอกสารราชการ
share
สำรวจความคิดเห็น
sentiment_very_satisfied
สำรวจความพึงพอใจ
thumb_up
facebook-line
folder
แผนบริหารความเสี่ยง
กิจการสภาเทศบาล
folder
ประกาศสภาเทศบาล
folder
รายงานการประชุมสภาเทศบาล
folder
กฎหมายเเละระเบียบ
งานยุทธศาสตร์และงบประมาณ
folder
แผนพัฒนาท้องถิ่น
folder
แผนการดำเนินงานประจำปี
folder
รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี
folder
งบประมาณรายจ่ายประจำปี
folder
แผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี
folder
โอนงบประมาณรายจ่าย
folder
แผนตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
งานนิติการ
folder
พระราชบัญญัติ/พระราชกฤษฎีกา
folder
กฎกระทรวง
folder
เทศบัญญัติตราขึ้นตามอำนาจหน้าที่
folder
ประกาศ
folder
ระเบียบ
folder
หนังสือสั่งการ
folder
หนังสือประชาสัมพันธ์
อีเมล์กลาง
Web mail
อบต.โพธิ์งาม
ร้องเรียนการทุจริต
เจ้าหน้าที่ประพฤติมิชอบ online
ถาม-ตอบ Q&A
สอบถามข้อมูลต่างๆ online
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ในการดำเนินงาน/การปฏิบัติงาน
คู่มือหรือมาตรฐาน
การปฏิบัติงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
คู่มือหรือมาตรฐาน
การให้บริการของ อปท.
บุคลากรภายใน
บริหารงานบุคคล
folder
แผนอัตรากำลัง 3 ปี
folder
แผนพัฒนาบุคลากร
folder
แผนการจัดการความรู้ (KM)
folder
ประมวลจริยธรรม
folder
มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง
folder
ระบบแท่ง-โครงสร้างส่วนราชการ
folder
โครงสร้างหน่วยงาน
folder
ประกาศ ก.ท.จ.ปราจีนบุรี
folder
มติ ก.ท.จ.ปราจีนบุรี
folder
ข้อตกลงการปฏิบัติราชการ
folder
นโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล
folder
การดำเนินการตามนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล
folder
แผนเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ
การป้องกันการทุจริต
thumb_up
แผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริต ทต.โพธิ์งาม
thumb_up
รายงานผลการปฏิบัติงานตามการป้องกันการทุจริต
thumb_up
แนวทางปฏิบัติการป้องกันการทุจริต
folder
รายงานผลการดำเนินการป้องกันการทุจริตประจำปี
เอกสารเผยแพร่
sentiment_very_satisfied
ข้อมูลเชิงสถิติการให้บริการ
folder
รายงานผลการปฏิบัติงาน
folder
มาตรการให้บริการ
folder
มาตรฐานการปฏิบัติงาน
sentiment_very_satisfied
รายงานผลการสำรวจความพึงพอใจการให้บริการ
folder
รายงานดำเนินงานรายจ่ายประจำเดือน
folder
รายงานผลการดำเนินงานประจำปี
folder
รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี
group
รายงานการประชุมประจำเดือน
folder
การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร
thumb_up
facebook-line
video_label
ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร
language
หนังสือราชการกรม
play_arrow
วิดีโอกิจกรรมหน่วยงาน
folder
หนังสือตอบข้อหารือ ต่างๆ
image
การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม
picture_as_pdf
การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม
folder
ประกาศเจตนารมณ์นโยบาย No Gift Policy จากการปฏิบัติหน้าที่
folder
การสร้างวัฒนธรรม No Gift Policy
folder
การประเมินผลและรายงาน No Gift Policy
folder
ประมวลจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
folder
การขับเคลื่อนจริยธรรม
folder
การประเมินจริยธรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ระบบออนไลน์
ร้องเรียน
ออนไลน์ Online
สายตรง
ผู้บริหาร
ศูนย์บริการ
ข้อมูลข่าวสาร
กระดานสนทนา
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
สมุดเยี่ยม
ลงชื่อเข้าชมหน่วยงาน
e-service
ลงทะเบียนรับความช่วยเหลือ
EIT
ช่องทางการตอบแบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก
เทศบาลตำบลโพธิ์งาม
อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี
☰ เลือกเมนู
เทศบาลตำบลโพธิ์งาม
home
เมนูหลัก (Main)
check_circle
นโยบายไม่รับของขวัญ
camera_alt
ภาพกิจกรรม
insert_drive_file
ข่าวประชาสัมพันธ์
chat_bubble
จัดซื้อจัดจ้าง
cast
ระบบการจัดซื้อจัดจ้าง egp
thumb_up
facebook-line
verified_user
อำนาจหน้าที่
equalizer
ข้อมูลหน่วยงาน
local_cafe
สถานที่ท่องเที่ยว
info_outline
วิสัยทัศน์
insert_drive_file
ข้อมูลหน่วยงาน
account_box
ส่วนราชการ
account_box
ผู้บริหารเทศบาล
account_box
สภาเทศบาล
account_box
หัวหน้าส่วนราชการ
account_box
สำนักปลัดเทศบาล
account_box
กองคลัง
account_box
กองช่าง
account_box
กองการศึกษา
account_box
กองสวัสดิการสังคม
account_box
กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม
account_box
หน่วยตรวจสอบภายใน
group
คณะกรรมการชุมชน
account_box
หมู่ที่ 1 บ้านคุ้ม
account_box
หมู่ที่ 2 บ้านโง้ง
account_box
หมู่ที่ 3 บ้านม่วง
account_box
หมู่ที่ 4 บ้านโพธิ์งาม
account_box
หมู่ที่ 5 บ้านประตูดาน
account_box
หมู่ที่ 6 บ้านอินทร์ไตรย์
account_box
หมู่ที่ 7 บ้านโคกกรวด
account_box
หมู่ที่ 8 บ้านต้น
account_box
หมู่ที่ 9 บ้านเกาะยาง
account_box
หมู่ที่ 10 บ้านหนองหัวลิง
account_box
หมู่ที่ 11 บ้านประเถท
account_box
หมู่ที่ 12 บ้านโคกบ้าน
account_box
หมู่ที่ 13 บ้านคลองแก้มช้ำ
account_box
หมู่ที่ 14 บ้านคลองฟันปลา
account_box
หมู่ที่ 15 บ้านหนองไม้เอก
account_box
หมู่ที่ 16 บ้านทุ่งยาว
account_box
หมู่ที่ 17 บ้านยาง
account_box
หมู่ที่ 18 บ้านโทรงาม
account_box
หมู่ที่ 19 บ้านม่วงใหม่
forum
ข้อมูลข่าวสาร
chat_bubble
จัดซื้อจัดจ้าง
insert_drive_file
ข่าวประชาสัมพันธ์
folder
แผนการจัดซื้อจัดจ้าง
folder
รายงานผลการปฏิบัติงาน
folder
งบประมาณรายจ่ายประจำปี
folder
ข้อมูลข่าวสารกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
info_outline
ข้อมูลการติดต่อ
public
ฐานข้อมูลตำบลออนไลน์
arrow_back_ios
กลับเมนูหลัก
ยินดีต้อนรับ เข้าสู่เว็บไซต์ เทศบาลตำบลโพธิ์งาม อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี
folder
บทความน่ารู้
พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม 2562
ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ เผยแพร่พระราชบัญญัติ มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. ๒๕๖๒ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๗๖ วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้รัฐพึงจัดให้มีมาตรฐานทางจริยธรรม เพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้เป็นหลักในการกำหนดประมวลจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานนั้น ๆ ซึ่งต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานทางจริยธรรมดังกล่าว ดังนั้น เพื่อให้การจัดทำประมวลจริยธรรมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีมาตรฐานเดียวกัน สมควรมีกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานทางจริยธรรมใช้เป็นหลักสำคัญในการจัดทำประมวลจริยธรรมของหน่วยงานของรัฐเพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติตนของเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยมีหลักเกณฑ์การจัดทำประมวลจริยธรรม กระบวนการรักษาจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งมาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างให้มีการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ สาระสำคัญของพระราชบัญญัติฉบับนี้ เช่น การกำหนด "มาตรฐานทางจริยธรรม" ไว้ในมาตรา ๕ ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์การประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งจะต้องประกอบด้วย (๑) ยึดมั่นในสถาบันหลักของประเทศ อันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (๒) ซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสำนึกที่ดี และรับผิดชอบต่อหน้าที่ (๓) กล้าตัดสินใจและกระทำในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม (๔) คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว และมีจิตสาธารณะ (๕) มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน (๖) ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ (๗) ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีและรักษาภาพลักษณ์ของทางราชการ มาตรฐานทางจริยธรรมดังกล่าว ให้ใช้เป็นหลักสำคัญในการจัดทำประมวลจริยธรรมของหน่วยงานของรัฐที่จะกำหนดเป็นหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติตนของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เกี่ยวกับสภาพคุณงามความดีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องยึดถือสำหรับการปฏิบัติงาน การตัดสินความถูกผิด การปฏิบัติที่ควรกระทำหรือไม่ควรกระทำ ตลอดจนการดำรงตนในการกระทำความดีและละเว้นความชั่ว
ไฟล์แนบ : พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม 2562
พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม 2562
องค์กรแห่งการเรียนรู้
ความหมายของคำว่า องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) ถ้าอ้างอิงตามนักคิดท่านหนึ่งคือ Peter M. Senge ท่านเคยให้นิยามไว้ว่า “องค์กรแห่งการเรียนรู้ คือ ที่ๆ ซึ่งบุคลากรมีความเป็นเลิศใน – การสร้างสรรค์ (Creating) และพัฒนา ความรู้ใหม่ๆ, – ได้มาจาก (Acquiring) การจัดเก็บความรู้ อย่างเป็นระบบ, และ – ถ่ายทอด (Transferring) แลกเปลี่ยน ความรู้ภายในองค์กร ” ส่วนทฤษฎีการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้นั้นมีนักคิดหลายท่านได้เสนอไอเดียที่หลายหลาก ในบทความนี้จะขอยกตัวอย่างทฤษฎีของ David A. Garvin, Amy C.Edmondson, and Francesca Gino ที่ตีพิมพ์ใน Harvard Business Review – March 2008 ซึ่งมี 3 องค์ประกอบหลักดังนี้ สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ (Supportive learning environment) • มีบรรยากาศของ “ ความปลอดภัยเชิงจิตวิทยา ” (Psychological safety) • องค์กรจะต้อง “ ชื่นชมยอมรับในความแตกต่าง ” (Appreciation of differences) • องค์กรจะต้อง “ เปิดกว้างต่อความคิดใหม่ๆ ” (Openness to new ideas) • องค์กรจะต้อง “ มีเวลาให้ได้คิดเชิง สะท้อน ” (Time for reflection) พฤติกรรมของผู้นำที่กระตุ้นการเรียนรู้ (Leadership That Reinforcing Learning) • การเป็นผู้บริหารที่ใจกว้าง ยอมรับฟัง ข้อคิดเห็นจากผู้อื่น • การเป็นผู้นำที่ถ่อมตน ยอมรับข้อจำกัดของ ตนเองและเคารพความชำนาญการของผู้อื่น • เป็นนักตั้งคำถามที่ดี • เป็นนักฟังที่ดี • เป็นนักกระตุ้นให้เกิดการแสดงมุมมองที่ หลากหลาย • เป็นนักบริหารเวลา สถานที่ และ ทรัพยากร เพื่อการค้นพบปัญหาและข้อท้าทายต่อ องค์กร • เป็นนักบริหารเวลา สถานที่ และ ทรัพยากร เพื่อการสะท้อนและปรับปรุงผลการทำงาน ในอดีต กระบวนการและการดำเนินการการเรียนรู้ที่ เป็นรูปธรรม (Concrete Learning Processes and Practices) • องค์กรจะต้องส่งเสริม “ ให้มีการทดลอง ” (Experimentation) • องค์กรส่งเสริมให้ “ มีการเก็บรวบรวมข้อมูล ” (Information collection) โดยมีการเก็บรวบรวม ข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อติดตามความเคลื่อนไหว และแนวโน้มด้านการแข่งขัน คู่แข่งขัน ลูกค้า แนวโน้มด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง กฏหมาย และเทคโนโลยีใหม่ๆ • องค์กรส่งเสริมให้ “ มีการวิเคราะห์ ” (Analysis) โดย จัดให้บุคลากรได้มีการสนทนา (Dialogue) อภิปราย (Discuss) แล้วตีความข้อคิดเห็นและข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจและระบุหาปัญหาและแสวงหาแนว ทางแก้ไขปัญหาเหล่านั้นร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ • องค์กรจัดให้มี “ การศึกษาและฝึกอบรม ” (Education and Training) เพื่อพัฒนาบุคลากรทั้ง กลุ่มใหม่และกลุ่มเก่าได้มีความรู้ความสามารถในการ ทำงานอย่างเพียงพอ • องค์การจัดให้มี “ การถ่ายโอนข้อมูล ” (Information transfer)
หน้ากากอนามัย เวลาใส่ต้องหันด้านไหนออก
เวลาที่เราป่วยหรือไม่สบาย นอกเหนือจากการทานยาให้หายแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือการพยายามป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปสู่คนอื่น สิ่งนี้เป็นความรับผิดชอบที่ทุนคนควรมีต่อสังคมเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียเชื้อไวรัส หรือเชื้อหวัด ลุกลามไปติดต่อคนอื่นจนกลายเป็นโรคระบาด เครื่องมือป้องกันง่ายๆที่ทุกคนสามารถทำได้และควรทำให้ติดเป็นนิสัยก็คือ “การสวมหน้ากากอนามัย” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคและป้องกันการรับเชื้อโรคจากภายนอกด้วย การสวมหน้ากากอนามัยเป็นวิธีการป้องกันขั้นต้นที่ทุกคนควรทราบถึงวิธีการใช้ที่ถูกต้อง หากยังไม่ทราบว่าแบบไหนเรียกว่าถูกต้องตามมาทำความเข้าใจกันเลยค่ะ การใช้หน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดจมูกที่เราเคยเห็นกันจะมีทั้งแบบคล้องหูและคาดหัวซึ่งโดยมากที่นิยมใช้จะเป็นแบบสายคล้องหูยางยืดเพราะสะดวกใช้และหาซื้อง่ายและเรามักสังเกตเห็นว่าหน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดจมูกเหล่านี้บ้างก็เป็นสีขาวทั้งสองด้านบ้างก็เป็นสีเขียวด้านหนึ่ง การใส่ในแบบที่แตกต่างกันหลายคนบอกว่ามันมีความหมายที่แตกต่างกันออกไปสิ่งที่คุณคิดอยู่ถูกหรือผิดเรามาหาคำตอบกันค่ะ การใส่หน้ากากอนามัยในต่างประเทศถือเป็นเรื่องธรรมดามากๆ เป็นเรื่องที่น่ายกย่องและปฏิบัติกันมาช้านานเพราะถือว่าบุคคลผู้นั้นตั้งใจจะป้องกันโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจไม่อยากให้เชื้อโรคจากตัวเองไปติดต่อผู้อื่น แต่สำหรับในประเทศไทยเวลาคนไหนใส่หน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดจมูกมักจะถูกมองเป็นเรื่องแปลกประหลาดถูกจ้องมองด้วยความสงสัยคิดว่าเป็นโรคร้ายแรงหรือถูกแสดงอาการรังเกียจผ่านทางสายตา ทั้งนี้อาจเป็นเพราะประเทศไทยยังมีการปลูกฝังเรื่องการป้องกันการแพร่เชื้อโรคด้วยหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอจึงยังมีคนเข้าใจเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยแบบผิดๆกันอยู่มาก หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่าการใส่หน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดจมูกมีความหมายห้ามใส่มั่วๆเด็ดขาด “เวลาใส่ต้องเอาด้านไหนขึ้นด้านไหนลง หรือถ้าใส่ผิดด้านจะมีผลต่อการป้องกันหรือตีความหมายต่างกันหรือไม่?” ทั้งหมดนี้มีคำตอบค่ะ สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า… 1. ใส่หน้ากากอนามัยเพื่ออะไร ก่อนอื่นต้องเข้าใจวัตถุประสงค์ของการใส่หน้ากากอนามัยก่อนหน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดจมูกเป็นวัสดุที่ใช้ในการแพทย์เพื่อป้องกันฝุ่นควันป้องกันสารก่อภูมิแพ้เช่นเกสรดอกไม้เป็นต้นและช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่ติดต่อทางทางเดินหายใจทั้งการรับและการแพร่เชื้อซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายได้ผลราคาถูกและสะดวกใช้มากที่สุด 2. เวลาใส่ต้องหันเอาด้านไหนออก สำหรับหน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดจมูกที่มีสองสีโดยมากแล้วจะหันเอาด้านสีออกทั้งนี้ไม่ได้เพื่อความสวยงามหรือแสดงสัญลักษณ์อื่นใดแต่เป็นเพราะรอยพับของผ้าด้านที่ไม่มีสีจะกักเก็บน้ำลายที่เกิดจากการไอจามได้ดีกว่าในขณะที่บางยี่ห้อจะกันน้ำได้ ทำให้เวลาไอหรือจาม น้ำลายจะไหลเปื้อนซึมออกมาข้างนอกได้ง่าย และการที่ใส่ด้านสีหันเข้าใบหน้าสีที่พื้นผิวของหน้ากากอนามัยบางยี่ห้อจะมีเนื้อสัมผัสที่สากเวลาใส่นานๆจะรู้สึกเจ็บผิวหน้ามากกว่า ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงแนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดจมูกโดยหันเอาด้านที่มีสีออก ทั้งนี้หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า “แล้วถ้าใส่สลับด้านประสิทธิภาพในการกรองเชื้อโรคจะแตกต่างกันหรือไม่?” คำตอบก็คือไม่แตกต่างกันเลยเพราะถึงอย่างไรก็ตามตัวชั้นกรองก็ยังคงอยู่ตรงกลางเช่นเดิมเพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะหันเอาด้านใดเข้าหรือด้านใดออกประสิทธิภาพในการกรองก็ยังคงเท่าเดิมเพียงแต่ความสะดวกจะไม่เท่ากันเท่านั้นเอง 3. ต้องใส่หน้ากากให้แนบชิดจมูก จะเห็นได้ว่าการใส่หน้ากากอนามัยโดยหันด้านไหนเข้าหรือออกไม่ใช่ประเด็นสำคัญแต่ประเด็นที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือควรจะต้องใส่หน้ากากอนามัยให้แนบชิดจมูกเพื่อให้การปกป้องเป็นไปได้ดีที่สุดและป้องกันไม่ให้ลมจากภายนอกผ่านเข้าออกทางช่องนี้นั่นเองหากใส่ถูกวิธีหน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดจมูกก็จะช่วยป้องกันเชื้อโรคได้ดีที่สุด 4. ล้างมือให้สะอาด ส่วนสุดท้ายที่ต้องคำนึงก็คือการรักษาความสะอาดของมือทั้งก่อนและหลังการใส่หน้ากากเวลาที่ถอดหน้ากากออกก็ควรจะต้องล้างมือให้สะอาดเวลาที่จะใส่หน้ากากออกก็ควรจะต้องล้างมือให้สะอาดเช่นกันเพราะมือที่ไปจับหน้ากากอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ นอกจากนี้หน้ากากอนามัยควรเป็นแบบใช้แล้วทิ้งไม่ควรใช้ติดต่อกันนานๆเพราะหน้ากากอนามัยจะกลายเป็นที่สะสมเชื้อโรคแทนและจากที่จะช่วยป้องกันเชื้อโรคจะกลายเป็นแพร่กระจายเชื้อโรคแทน ทราบไปแล้วนะคะว่าการใส่หน้ากากอนามัยมีข้อจำกัดอย่างไรบ้างดังนั้นจะหันเอาด้านไหนเข้าหรือออกก็คงไม่ใช่เรื่องผิดอะไรขอเพียงแค่ใส่โดยให้สามารถป้องกันเชื้อโรคให้ได้มากที่สุดก็พอและต้องล้างมือทั้งก่อนและหลังใช้ให้สะอาดด้วยเพียงเท่านี้การใช้หน้ากากอนามัยก็จะป้องกันเชื้อโรคได้ดีที่สุดแล้ว